มาตรฐานการให้บริการของ BVAX

“การตรวจวัดสายตาด้วยมาตรฐานการวัดสายตา BVAX 16 ขั้นตอน” หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการได้แว่นและเลนส์ที่ดีที่สุด

การตรวจวัดสายตาคืออะไร?

การตรวจวัดสายตา (Eye Examination) คือกระบวนการ ตรวจสายตา และ ทดสอบสายตา เพื่อหาค่าความผิดปกติในการมองเห็น รวมถึงหาค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำแว่นตา โดยใช้ทั้งการ วัดสายตา ระยะใกล้และระยะไกล เช่น การอ่านตัวอักษร ตัวเลข หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ จากระยะที่กำหนด กระบวนการนี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ผู้สวมแว่นได้เลนส์ที่ตรงกับสายตาจริง มองเห็นได้ชัดเจนและใส่สบาย

ขั้นตอนการวัดสายตา BVAX 16 ขั้นตอน

ที่หอแว่น Better Vision เราให้ความสำคัญกับ ขั้นตอนการวัดสายตา ที่มีความละเอียดรอบด้าน ด้วยมาตรฐาน BVAX 16 ขั้นตอน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การซักประวัติสุขภาพตา การทดสอบกำลังสายตา ไปจนถึงการวิเคราะห์ความเหมาะสมของเลนส์ในแต่ละบุคคล เพื่อให้ลูกค้าได้ค่าที่แม่นยำที่สุด

นอกจากนี้ เรายังมี BVAX Master ผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดสายตา ที่ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการ มีวิธีวัดค่าสายตา ที่ชำนาญ คอยดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับทั้งกรอบและเลนส์ที่ตอบโจทย์สายตา ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

  • 1. Eye History Evaluation

    สอบถามประวัติลูกค้าเบื้องต้น เพื่อพิจารณาและแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้อง

  • 2. Object Test

    ตรวจหาความผิดปกติของค่าสายตาเบื้องต้นจากเครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์และระยะห่างของจุดศูนย์กลางรูม่านตาทั้ง 2 ข้าง

  • 3. Visual Acuity and Pinhole Test

    ทดสอบความสามารถในการมองเห็นด้วยตาเปล่าหรือจากแว่นเดิม และแยกความผิดปกติของการมองเห็นด้วย Pinhole ว่าแก้ไขด้วยแว่นได้

  • 4. Best Visual Acuity with Sphere by Red-Green Test (Duochrome Test)

    ตรวจวัดเพื่อยืนยันค่าสายตาสั้นหรือยาวที่ได้มาจากขั้นที่ 2 ว่าถูกต้องหรือไม่ มากหรือน้อยอย่างไร

  • 5. Clock Dial Chart

    ทดสอบความผิดปกติของสายตาเอียงเบื้องต้น

  • 6. Jackson Cross Cylinder Test (Cross Axis and Cross Power)

    ตรวจหาค่าสายตาเอียง และตำแหน่งองศาเอียง จากขั้นตอนที่ 5 อย่างละเอียด

  • 7. Visual Acuity Test

    ทดสอบความสามารถในการมองเห็นหลังจากตรวจวัดได้ค่าสายตา

  • 8. MPMVA Finding (Fogging Method)

    กระบวนการคลายการเพ่งของกล้ามเนื้อตาโดยการเบลอภาพ เพื่อหาค่ากำลังสายตาที่ดีที่สุดของตาแต่ละข้างจากตรวจวัดค่าสายตา

  • 9. Binocular balance V.A.

    กระบวนการปรับสมดุลความคมชัดของตาทั้งสองข้าง เพื่อให้ตาทั้งสองใช้กำลังการเพ่งเท่าๆกัน

  • 10. Best Vision Acuity (BVA)

    หาค่ากำลังเลนส์ที่ทำให้มองเห็นภาพคมชัด

  • 11. Stereo Test or Worth 4 Dot

    ทดสอบการมองเห็นภาพสามมิติ และการรวมภาพของตาทั้ง 2 ข้าง หลังแก้ไขสายตาที่ดีที่สุดแล้ว

  • 12. Coincidence Test

    ทดสอบความสมดุลของขนาดภาพที่ตามองเห็นทั้ง 2 ข้างมองเห็นหลังการแก้ไขสายตา เพื่อพิจารณาเลือกวิธีการแก้ไข

  • 13. Addition Test or Accommodation Test (Binocular Cross Cylinder)

    การทดสอบความสามารถในการเพ่งมองระยะใกล้ และทดสอบค่าสายตาระยะอ่านหนังสือ

  • 14. Negative and Positive Ralative Accommodation (NRA/PRA) (Finding Range of Accommodation)

    ตรวจหาความสามารถสูงสุดของกำลังการเพ่งของเลนส์ตา (PRA) และดูการคลายออกของการเพ่งของเลนส์ตา (NRA)

  • 15. Data Analysis (Prescription on Trial Frame)

    ทดลองเลนส์ บนกรอบแว่นสายตาทดลอง ที่จะสั่งประกอบ

  • 16. Plan and Assessment

    วิเคราะห์ข้อมูล และวางแผนการแก้ไขจากผลการทดสอบ สรุปผลการตรวจวัดสายตาพร้อมอธิบายและให้คำแนะนำอย่างละเอียด

ตรวจสายตาที่ไหนดี?

หากคุณกำลังมองหาว่าจะ ตรวจสายตาที่ไหนดี คำตอบคือ “หอแว่น Better Vision” เพราะเราไม่เพียงแค่ให้บริการ ตรวจวัดสายตา และ ทดสอบสายตา เท่านั้น แต่ยังมอบการดูแลครบวงจร ทั้งการเลือกกรอบ การแนะนำเลนส์ และการบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ทุกครั้งที่ใส่แว่นจะมองเห็นได้ดีที่สุด