เลนส์โปรเกรสซีฟ หรือเลนส์สำหรับผู้มีปัญหาสายตายาวตามวัย เป็นเลนส์ที่มีค่าสายตาหลายระยะเรียงตัวกันแนบเนียนไร้รอยต่อ ทำให้ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้นยาวในคราวเดียวกัน สามารถมองเห็นภาพได้ชัดทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นใกล้ กลาง หรือไกล ในแว่นเดียว โดยความที่เลนส์นี้มีโครงสร้างเลนส์แบบพิเศษ ทำให้ผู้สวมใส่ต้องปรับตัวในการใช้งาน และอาศัยการฝึกฝนใช้งานเพื่อให้เกิดความคุ้นชิน
บอกเลยว่าถ้าใครใช้งานถนัด ปรับตัวได้ แว่นโปรเกรสซีฟจะเป็นไอเท็มที่ทำให้ชีวิต 40+ ของเราง่ายขึ้นเยอะ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ยังพบว่า มีผู้ใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟหลายคนประสบปัญหา ตัดแว่นโปรเกรสซีฟมาแล้วไม่สามารถใช้งานได้ มีอาการ เวียนหัว มึนงง ไม่สบายตา แถมยังซื้อมาในราคาแพง แต่กลับต้องมาวางไว้เฉยๆ ไม่ต้องเสียใจไป วันนี้หอแว่นมีคำตอบ พร้อมวิธีแก้ไข
การที่ตัดเลนส์โปรเกรสซีฟมาแล้วไม่สามารถสวมใส่ได้เกิดจาก 4 สาเหตุหลักๆ ด้วยกัน
เกิดจากการวัดค่าสายตา ที่คลาดเคลื่อน
การวัดค่าสายตาที่ไม่ถูกต้อง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ไม่สามารถใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งการที่จะใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟได้อย่างราบรื่นนั้น ต้องมีการวัดค่าสายตาระยะใกล้ (ค่าสายตาสั้น) และ ค่าสายตาระยะไกล (ค่าสายตายาว) ได้อย่างถูกต้อง และค่าที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเลนส์โปรเกรสซีฟคือ ค่าพารามิเตอร์ (Parameter)ค่าพารามิเตอร์ คืออะไร และสำคัญอย่างไร ?
เพราะสรีระของใบหน้าแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน บางคนทีโครงหน้าเล็ก บางคนมีโครงหน้าใหญ่มีตำแหน่งของดวงตา จมูก และใบหูที่ต่างกันออกไป ส่งผลให้การสวมใส่แว่นตา ก็จะมีองศาที่ต่างออกไปอีกด้วย ซึ่งทุกๆองศาของสรีระใบหน้า กรอบแว่น และเลนส์ที่เลือกใช้ล้วนมีความสัมพันธ์กันทั้งหมดโดยค่าพารามิเตอร์ จะวัดทั้งหมด 4 ค่าดังนี้- ความโค้งหน้าแว่น Wrap angle
- มุมเทหน้าแว่นขณะสวมใส่ Pantoscopic
- ระยะห่างของเลนส์ ถึง กระจกตา Vertex distance
- ระยะห่างจากสันจมูก ถึง กระจกตา Naso-pupilarity
โครงสร้างของเลนส์ ไม่เหมาะกับค่าสายตา
โครงสร้างของเลนส์ที่ไม่เหมาะสมกับค่าสายตา และพฤติกรรมการใช้งานซึ่งรวมไปถึง Life style ของผู้สวมใส่ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สามารถใช้งานโปรเกรสซีฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น เลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่น A มีโครงสร้างเลนส์ที่เหมาะกับการใช้งานระยะกลาง-ไกล แต่ผู้สวมใส่ มี Life style ที่อยู่หน้าจอ อ่านหนังสือ ใช้งานระยะใกล้-กลางเป็นหลัก ทำให้มองเห็นภาพไม่สบายตา
ทั้งนี้ทั้งนั้น เลนส์โปรเกรสซีฟที่แล้วสบายที่สุด ใช้งานได้ดี ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงที่สุดเพียงแต่ต้องเลือกโครงสร้างเลนส์ให้เหมาะกับค่าสายตาและการใช้งาน ซึ่งที่หอแว่นของเรามีผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในโครงสร้างของเลนส์โปรเกรสซีฟ และการตรวจวัดสายตาเป็นอย่างดี พร้อมที่จะช่วยแนะนำ และเลือกสรรค์เลนส์ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
ใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟไม่เป็น หรือไม่ยอมฝึกใช้งาน
หากเป็นผู้ที่ไม่เคยใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟมาก่อนก็ อาจสงสัยว่า แค่ใส่แว่นถึงกับฝึกมองเลยหรอ? อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นว่า เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่มีค่ากำลังสายตา หลายระดับเรียงตัวกันอยู่บนเลนส์ โดยค่าสายตาที่เรียงกันเหล่านี้ ทำให้เรามองเห็นได้ชัดทุกระยะ
ดังนั้นการมองผ่านเลนส์โปรเกรสซีฟ จะต้องเน้นการเหลือบตา มองหรือการกวาดตาเป็นหลัก การเข้าใจโครงสร้างเลนส์ และการมองอย่างถูกวิธี จะทำให้การใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟของเรา สมูทและไม่เห็นภาพเบลอระหว่างการเปลี่ยนระยะการมองเห็นนั่นเองค่ะ
แต่ถ้าตัดเลนส์โปรเกรสซีฟมาแล้ว ไม่สามารถใช้งานได้จริงๆล่ะ จะทำยังไงดี ?
ไม่ต้องห่วง ว่าเลนส์โปรเกรสซีฟที่ตัดไปแล้วไม่สามารถใช้งานได้ และต้องวางแว่นทิ้งไว้เฉยๆ เพราะที่หอแว่นของเรามีนโยบายดูแลลูกค้า ที่ตัดเลนส์ไปแล้ว ใส่ไม่สบายตา พื้นลอย เวียนหัว ไม่สามารถปรับตัวได้ ภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่สั่งซื้อสินค้า โดยมีนโยบายดูแลลูกค้าดังนี้
- สอบถามอาการ และปัญหาเบื้องต้น
- ตรวจเช็คเลนส์
- ตรวจเช็คค่าสายตา และค่า parameter อีกครั้ง
- เปลี่ยนเลนส์ใหม่ หรือ ทำการเคลมสินค้า